วันธรรมสวนะ วันธรรมสวนะ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันพระ” โดยนับ วันขึ้น ๘ ค่่า แรม ๘ ค่่า วันขึ้น ๑๕ ค่่า (วันเพ็ญ) แรม ๑๕ ค่่า (หากเดือนใดเป็นเดือนขาด ถือเอาวันแรม ๑๔ ค่่า) ของทุกเดือน เป็นวันที่ชาวพุทธมา บ่าเพ็ญกุศลให้กับตนเอง วันธรรมสวนะนี้มีมาแต่ครั้งพุทธกาล ซึ่งถือเป็นวันบ่าเพ็ญกุศลของชาวพุทธทั่วไป

ในวันพระ พุทธศาสนิกชนถือเป็นวันส่าคัญ ที่ควรไปวัดเพื่อท่าบุญ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ และ ฟังธรรม หรือถือศีล ส่าหรับผู้ที่เคร่งครัดในศาสนาอาจถือศีลแปดในวันพระด้วย นอกจากนี้ชาวพุทธยังถือว่าวัน พระไม่ควรท่าบาปใดๆ

หลักธรรมที่เกี่ยวเนื่อง สังคหวัตถุ ๔ หมายถึง หลักปฏิบัติตนที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจผู้อื่นไว้ หรือหลักในการสงเคราะห์ผู้อื่น มี ๔ ประการ คือ

๑.การให้( ทาน ) หมายถึง การรู้จักการช่วยเหลือ แบ่งปันไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นวัตถุสิ่งของ วิชาความรู้ ต่างๆ หรือแม้กระทั่งการให้อภัยแม้ผู้อื่นท่าความผิดต่อเราหรือท่าให้เราเดือดร้อน

๒.การพูดจาไพเราะ ( ปิยวาจา ) หมายถึง การพูดไพเราะ น่ารัก พูดด้วยความจริงใจ

๓.การท าประโยชน์ต่อกัน ( อัตถจริยา ) หมายถึง การประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อกัน

๔.การวางตัวเสมอต้นเสมอปลาย ( สมานัตตตา ) หมายถึง การท่าตัวให้เข้ากันได้กับผู้อื่น โดยไม่ถือตัว

ข้อควรปฏิบัติในวันธรรมสวนะ

๑. ท่าบุญตักบาตร ให้ทานอื่นๆ เช่น ถวายสังฆทาน

๒. สมาทานศีล และรักษาศีล เช่น ศีล ๘ หรือ ศีล ๕

๓. เจริญภาวนาด้วยการท่าจิตใจให้สงบเป็นสมาธิ

๔. ฟังธรรมเทศนาด้วยความตั้งใจและความสงบ

https://secretary.dld.go.th/